ลำปาง – เผยนาทีน้ำป่าหลากลงดอยขุนตาน ท่วมห้างฉัตรยันเกาะคา ฉับพลันกลางดึก..ระดับน้ำบางจุดสูงร่วม 1.5-2 เมตร-เชี่ยวกราก ล่าสุดมีรายงานกระแสน้ำพัดชาวบ้านจมดับแล้ว 1 ราย หายอีก 1 ราย บาดเจ็บ 3 แถมโคลนภูเขาทะลักท่วมรางรถไฟหน้าอุโมงค์ขุนตาล กระทบรถไฟสายเหนือทั้งขาขึ้นขาล่อง
วันที่ 23 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าน้ำป่าจากดอยขุนตานจำนวนมาก ได้ไหลหลากลงสู่ลำห้วยแม่ตาน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ทะลักท่วมบ้านเรือนของประชาชนพื้นที่ติดริมลำห้วย อาทิ บ้านปางปง-ปางทราย บ้านแม่ตาลน้อย และ บ้านห้วยเรียน ต.เวียงตาล ตั้งแต่บ้านหัววัง อ.ห้างฉัตร จนถึงบ้านจำ อ.เกาะคา มีผู้ติดค้างจำนวนหลายราย ตั้งแต่เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้(23 ก.ย.)
มวลน้ำจำนวนมากไหลหลากเข้าบ้านเรือน มีประชาชนติดอยู่ในบ้านหลายหลังและรถถูกน้ำซัดคนติดในรถ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางเร่งเข้าช่วยเหลือคนขับที่ติดอยู่ในรถท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว และผู้ติดค้างภายในที่พักอาศัยหลายราย ออกมายังจุดที่ปลอดภัย และมีรายงานว่า เกิดดินสไลด์ปิดปากทางเข้าอุโมงค์รถไฟขุนตาน ซึ่งดินโคลนไหลจากภูเขาท่วมรางรถไฟยาว ทำให้รถไฟสายเหนือทุกขบวนที่จะวิ่งผ่านลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ทั้งขาขั้น/ขาล่อง ต้องหยุดเดินรถชั่วคราว จนกว่าจะเคลียร์เส้นทางแล้วเสร็จ
ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านที่ติดลำห้วยแม่ตาน บ้านห้วยเรียน หมู่ 6 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ชาวบ้านในหมู่บ้านกำลังออกมาสำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากท่วมหมู่บ้านต้นน้ำ จุดแรกคือ บ้านปางปงปางทราย บ้านแม่ตาลน้อย และบ้านห้วยเรียน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร
ขณะเกิดเหตุทางผู้ใหญ่บ้านประกาศให้ลูกบ้านอพยพไปในที่ปลอดภัย จนกระทั่งเช้าวันนี้ทุกคนต่างออกมาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดพังได้ระบความเสียหายไปกว่า 40 หลังคาเรือน กำแพงบ้านพังเสียหายจำนวนมากโดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้ลำห้วย ทรัพย์สินอื่นๆยังอยู่ระหว่างสำรวจ
เบื้องต้นนางลัดา อุสาทำ ผู้ช่วยผู้ใหญ่าบ้านห้วยเรียน แจ้งว่า ขณะเกิดน้ำท่วมมีลูกบ้านสูญหายไป 1 ราย คือนางเทียม ธรรมโชค อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว อยู่ติดลำห้วยแม่ตาน โดยนางเทียม อาศัยอยู่กับสามีและลูก ช่วงที่มีประกาศให้อพยพนางเทียม ได้เดินฝ่ากระแสน้ำออกมาก่อน ส่วนสามีและลูกช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงและช่วยเหลือพ่อกับแม่ที่อยู่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือไปในที่ปลอดภัยและทางสามี คิดว่านางเทียม อพยพ มาอยู่ในวัดแล้ว แต่พอออกตามหาก็ไม่พบตลอดทั้งคืนและเช้าวันนี้ คาดว่าน่าจะถูกกระแสน้ำพัดไปเนื่องจากมีรูปร่างค่อนข้างอ้วนและมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านยังช่วยกันออกตามหาแต่ยังไม่พบตัว
ด้านนายสังเวียน ปิ่นใจล่า อายุ 54 ปี สามีของนางเทียน ธรรมโจก อายุ 49 ปี ผู้สูญหาย เปิดเผยว่าตอนน้ำป่าเข้าทะลักเข้ามา ตอนแรกน้ำยังไม่มากแต่ต่อมาน้ำได้ไหลทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจึงให้ภรรยาวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อนและตนก็ค่อยตามมาทีหลัง กระทั่งมาถึงที่ปลอดภัย ปรากฏว่ามีคนบอกว่าระหว่างภรรยาวิ่งหนีเอาชีวิตรอดนั้นปรากฏว่าน้ำป่าซึ่งตอนนั้นรุนแรงมากได้ซัดกำแพงรั้วปูนของชาวบ้านพังลงมาก่อนที่จะพัดร่างของภรรยาหายไปตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
นอกจากนี้มีรายงานว่ามี หญิงชรา ชาวบ้านปางปงปางทราย หมู่บ้านต้นน้ำถูกกระแสน้ำพัดบ้านพังหายไปกับกระแสนน้ำ ชาวบ้านเจ้าหน้าที่กำลังเร่งช่วยค้นหาอย่างเร่งด่วน
สอบถามนายไว วันพรมมินทร์ อายุ 62 ปีชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่าเมื่อช่วงประมาณ ตี 2 ที่ผ่านมาตอนนั้นกระแสน้ำป่าไหลขึ้นมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาในพื้นที่มาก่อน ระดับน้ำสูงตั้งแต่เมตรจนถึง 2 เมตรกว่า ชาวบ้านหลายคนพยายามขนข้าวของหนีแต่สุดท้ายต้องยอมทิ้งหมดและวิ่งไประหว่างนั้น กำแพงของชาวบ้านซึ่งต้านน้ำไว้ไม่อยู่ก็พังลงมาก่อนที่จะพัดร่างของผู้สูญหายไป ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้คว้ามือชาวบ้านคนหนึ่งเอาไว้ได้
และจากข้อมูล ของเจ้าหน้าที่ล่าสุดพบว่า ชาวบ้านบ้านปางปงปางทรายที่ไหลไปกับกระแสน้ำนั้น มีคนพบศพแล้ว 1 ศพคือ นางเสมอ สุขใส ชาวบ้านปางปงปางทราย ลอยมาติดเสาร์ไฟฟ้าบ้านแม่ตาลน้อย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 รายกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้สูญหายที่บ้านห้วยเรียนในขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
ทั้งนี้มวลน้ำได้ไหลลงไปในพื้นที่ตำบลปงยางคกคือบ้านจูดบ้านจำ และในพื้นที่อำเภอเกาะคา คือ บ้านม้าเหนือ บ้านม้าใต้ และบ้านม้ากลาง ระดับน้ำค่อนข้างสูง ถนนสายห้างฉัตรเกาะคาถูกน้ำตัดขาดรถไม่สามารถผ่านได้.