หน้าแรกอาชญากรรมสองหนุ่มเจอนางนกต่อผ่านเฟสบุค ลวงมาสังหาร เคราะห์ดีพลเมืองดีช่วยทัน ย่าน ทุ่งครุ

สองหนุ่มเจอนางนกต่อผ่านเฟสบุค ลวงมาสังหาร เคราะห์ดีพลเมืองดีช่วยทัน ย่าน ทุ่งครุ

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

สวย แสบ สยอง สองหนุ่มเจอนางนกต่อผ่านเฟสบุค ลวงมาสังหาร เคราะห์ดีพลเมืองดีช่วยทัน ย่าน ทุ่งครุ

วันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 04.30 น.

พันตำรวจโท อาทิตย์ ศรีสุพจน์ สว.สอบสวน สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน จุดเกิดเหตุบริเวณภายในซอย เจริญสุข ถนน เลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก – ทุ่งครุ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณภายในซอย เจริญสุข ถนน เลียบทางด่วนกาญจณาภิเษก – ทุ่งครุ แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกูปปี้ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฬรก 557 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่ภายในที่เกิดเหตุ และห่างจากจุดจอดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวประมาณ 20 เมตร พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ซึ่งทราบชื่อต่อมาชื่อนาย พงศกร อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว อยู่ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณต้นขาข้างขวาด้านหลัง ฝังเข้าเนื้อ 1 นัด และ มีบาดแผลจากกระสุนปืนชนิดเดียวกันอีก 1 แผล แต่เป็นบาดแผลจากการที่กระสุนปืนถากที่ต้นขาขวาบริเวณด้านหน้าและมีบาดแผลบริเวณแขนและข้อมือข้างซ้าย ซึ่งเป็นบาดแผลจากการถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคม อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนเป็นการเร่งด่วน

และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดตกอยู่ภายในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ปลอก ส่วนบริเวณโต๊ะม้าหินพบกระเป๋าสะพายข้างสีครีมของผู้หญิงตกอยู่ 1 ใบ ด้านในกระเป๋าพบเอกสารบัตรประจำตัวของ นางสาว สุพัตรา อายุ 26 ปี แล้วภายในบริเวณที่เกิดเหตุยังพบมีดปลายแหลม ตกอยู่ที่พื้น 1 เล่ม พร้อมด้วย สนับมือ 1 อัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมสิ่งของทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐาน

และจากการสอบถาม นาย พงศกร อายุ 30 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า บ้านของตนอยู่สะแกงาม มากับเพื่อนสองคนโดยขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน ตนเป็นคนขี่ ส่วนเพื่อนของตนเป็นคนซ้อน ที่มาตรงนี้เพราะเพื่อนคุยแชทกับผู้หญิงผ่านทางเฟสบุค แล้วได้นัดพบกันที่นี่โดยฝ่ายหญิงเป็นคนส่งโลเคชั่นให้มาหา พอมาถึงก็พบผู้หญิงคนดังกล่าวยืนโบกมือให้จอดรถ พอยังไม่ทันได้จอดดีก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งออกมาจากป่ากล้วยข้างทางแล้วก็ควักปืนออกมายิงตนกับเพื่อนเลย เพื่อนหลบทันแต่ตนวิ่งไม่ทันก็เลยถูกยิงที่ขา ไป 2 นัดแล้วก็ล้มลงกับพื้นหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็เข้ามารุมทำร้ายตนด้วยการตีด้วยไม้เบสบอล แล้วก็รุมกระทืบตนจนตนได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็น

และจากการสอบถาม นาย สุธิเกีรยติ อายุ 33 ปี เพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าว่า ตนบ้านอยู่ย่านถนนเอกชัย รู้จักกับนางสาว สุพัตรา ผ่านทางเฟสบุค แล้วได้คุยกันแค่สามวัน แล้ววันนี้หญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้นัดตนมาเจอกันตรงนี้ โดยที่ผู้หญิงเป็นคนส่งโลเคชั่นให้กับตน ตนก็เลยตัดสินใจมาพบตามนัดเพราะสาวคนดังกล่าวหน้าตาดีตนก็อยากจะรู้จักจึงชวนเพื่อนมาด้วยกัน แต่พอมาถึงก็พบสาวคนดังกล่าวจริงๆ แล้วอยู่ดีๆก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือเข้ามาทำร้ายตนกับเพื่อนโดยหนึ่งในนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงมาประมาณ 3 นัด ตนจึงวิ่งหนีตายไปคนละทิศคนละทางกับเพื่อน พอเหตุการณ์สงบลงแล้ว ตนจึงออกมาดูเพื่อนก็พบว่าเพื่อนได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็น

ส่วนทางด้าน นาย อนุชิต อายุ 27 ปี เป็นพนักงานอู่รถ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนเห็นแต่ว่าคันแรกจอดอยู่ตรงนี้แล้วก็เห็นอีกคันนึงวิ่งไปตรงนู้นอีกคันก็ดังอยู่ตรงนี้แต่พอหลังจากไอ้หนุ่มคันนี้มาก็มาจอดอยู่ตรงนี้แล้วหลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นมาเลยสามนัดปัง ปัง ปัง แล้วไอ้หนุ่มคนนี้ก็วิ่งไปทางนั้นเลย ส่วนไอ้หนุ่มเสื้อขาวก็วิ่งเข้าไปด้านหลังอู่ของตนไปออกป่ากล้วยแล้วทะลุไปร้านฝั่งนู้นแต่ไอ้หนุ่มที่โดนยิงมันวิ่งไปนู่นไปโดนกระทืบตรงนู้นเลยร้านค้าไป ทั้งไม้เบสบอลทั้งอะไรไม่รู้อ่ะ ตนก็เลยเดินออกมาแล้วตะคอกใส่ว่าเฮ่ยมึงเป็นอะไรกันวะ เขามากัน 4 คน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 3 คน มีอาวุธทั้งไม้เบสบอล สนับเมือ มีด และก็ปืน เป็นปืนแบบไหนไม่รู้เห็นไม่ชัด เห็นแค่ว่าเดินถือไม้เบสบอลจะมาใส่ตน แล้วตนก็เลยเดินสวน พอผู้หญิงมาเจอหน้าตนแล้วก็บอกว่าคนนี้ไม่ใช่เขาก็เลยปล่อยตน แล้วเขาก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปทางด้านหลังอู่ของตน คือที่แน่ๆเขาต้องการมาทำร้ายอีกคน ส่วนคนที่โดนนะเป็นแพะ แต่ที่แน่ๆตนได้ยินเสียงปืนทั้งหมด สามนัด

เบื้องต้นจากการตรวจสอบแล้วทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวใช้เฟสบุค ทำการล่อลวง นาย สุธิเกีรยติ มาบริเวณตรงนี้โดยการส่งโลเคชั่นให้นาย สุธิเกีรยติ มาพบแล้วพอมาถึงก็ให้กลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือเข้าทำร้ายผู้เสียหายทั้งสองคนทันที โดยใช้อาวุธปืนยิงมาทางผู้เสียหายก่อนจนกระสุนไปถูกนาย พงศกร จนได้รับบาดเจ็บล้มลงกับพื้นจนไปไหนไม่ได้แล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็เข้าไปรุมทำร้ายร่างกายซ้ำโดยใช้อาวุธทั้งไม้เบสบอล และสนับมือ รวมทั้งมีดปลายแหลมเข้าทำร้ายร่างกายจนนาย พงศกร ได้รับบาดเจ็บ แล้วได้มี นาย อนุชิต ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่พักอาศัยอยู่ภายในอู่รถออกมาช่วยห้ามปรามจนกลุ่มผู้ก่อเหตุล่าถอยไปแล้วก็เป็นคนที่โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและต่อมาอาสาสมัครกู้ภัยได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

Ad 1
Ad 2