“ปวีณา” พาผู้เสียหายถูกบริษัทช่วยปิดหนี้ หลอกซื้อคอนโดฯ เสียหายเป็นหนี้ 3 พันล้าน ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอให้เป็นหน่วยงานหลักประสานธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งเรื่องไปยังธนาคารทุกแห่ง เพื่อทำการประนอมหนี้ ชะลอการชำระเงินกู้ระหว่างแก้ไขปัญหา เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีกำลังส่งค่างวดกู้ซื้อคอนโดฯ พร้อมกันหลายห้องได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ธนาคารมีหนี้เสียและส่งผลกับสภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ “ปวีณา” เตรียมประสาน ผบ.ตร. ผบช.ก. อนุมัติให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) มาร่วมตรวจสอบข้อมูลกับ DSI อีกทางหนึ่ง
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) : วันที่ 11 ธ.ค.67 เวลา 08.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้เสียหาย 70 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากทั้งหมด 200 กว่าคน เดินทางไปยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ช่วยตรวจสอบบริษัทช่วยปิดหนี้ หลอกซื้อคอนโดฯ คนละ 3-6 ห้อง จนผู้เสียหายต้องเป็นหนี้กันคนละกว่าสิบล้าน และเกิดความเสียหายเป็นหนี้รวมกว่า 3 พันล้าน เพื่อขอให้ DSI เป็นหน่วยงานหลักในการประสานธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งเรื่องไปยังธนาคารทุกแห่ง เพื่อทำการประนอมหนี้ เช่น ไม่คิดดอกเบี้ย ชะลอการชำระเงินกู้ เพื่อให้ผู้เสียหายได้มีโอกาสตั้งหลักในการขายหรือให้เช่าคอนโดฯ เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีกำลังส่งค่างวดกู้ซื้อคอนโดฯ พร้อมกันหลายห้องได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นหนี้เสียของธนาคารและส่งผลกับสภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ พร้อมกันนี้ขอให้ตรวจสอบบริษัทที่ทำธุรกิจในรูปแบบนี้ที่ตอนนี้มีการโฆษณาในโซเชียลอยู่เป็นจำนวนมาก หากมีคนหลงเชื่อจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลที่ประเมินค่าไม่ได้
พร้อมกันนี้นางปวีณา จะประสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เพื่ออนุมัติให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) มาช่วยตรวจสอบข้อมูลร่วมกับ DSI เนื่องจากเป็นเรื่องเศรษฐกิจความเสียหายเกิดขึ้นถึง 3,000 ล้านบาท
ภายหลังรับเรื่อง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า วันนี้ท่านปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นตัวแทนผู้ร้องมายื่นหนังสือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งผู้ร้องถูกหลอกลวงลักษณะให้ปิดบัญชีเงินกู้ทำให้เป็นหนี้เพิ่ม โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตรงนี้จะรับเรื่องไว้เพื่อตรวจสอบ ในขณะเดียวกันได้แนะนำให้ไปร้องทุกข์ที่ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) การสอบสวนจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้ผู้มีอำนาจสูงสุดได้สอบสวนต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและอำนวยความเป็นธรรม ส่วน DSI จะทำงานคู่ขนานกันไปหลัง ปอศ.สืบสวนแล้วเข้าหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษก็สามารถส่ง DSI ทำการสอบสวนต่อได้
ต่อมาเวลา 10.45 น. วันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) และพล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เพื่อจะพากลุ่มผู้เสียหายไปยื่นเรื่องและแจ้งความที่ ปอศ. โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. มาให้การต้อนีบและให้ความสะดวกกับนางปวีณา ด้าน พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ได้มาต้อนรับนางปวีณา และกลุ่มผู้เสียหายกว่า 70 ราย และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.อ.เมฆภิศาล ศรีภิรมณ์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังพนักงานสอบสวนมารับแจ้งความและสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหาย จากนั้นได้ทำการคัดแยกผู้เสียหาย 72 ราย พร้อมจัดพนักงานสอบสวนเพื่อทำการรับแจ้งความและสอบปากคำส่วนหนึ่งในวันนี้อย่างรวดเร็วฉับไวเป็นที่ประทับใจ
โดยผู้เสียหายแยกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
-กลุ่ม A ผู้เสียหายที่มีพยานหลักฐานครบ
-กลุ่ม B ผู้เสียหายที่มีเอกสารครบแต่อยู่ไกลต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกสอบปากคำให้ในวันนี้เลย
-กลุ่ม C ผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้แต่ยังไม่พร้อมให้ปากคำและเอกสารยังไม่ครบ จะให้ลงชื่อและนัดหมายมาสอบปากคำในวันต่อไปในช่วงเวลา 9.30-16.00 น. ที่บก.ปอศ.
พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายที่ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้และต้องการแจ้งความกับบก.ปอศ. ขอให้ลงชื่อกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีก่อน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะเป็นตัวกลาง นัดหมายผู้เสียหายให้เข้าแจ้งความ โดยจะจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้ให้เพียงพอกับจำนวนผู้เสียหายแต่ละวัน ในช่วงเวลา 9.30-16.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เสียหายทุกคน
นางปวีณา ขอบคุณ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ให้การต้อนรับและรับเรื่องอย่างดีเยี่ยม และขอบคุณตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ที่ให้การต้อนรับและรับแจ้งความจากผู้เสียหายอย่างดียิ่ง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะทำงานร่วมกับ DSI และ ปอศ. อย่างใกล้ชิดต่อไป
1 ในผู้เสียหายเปิดเผยข้อมูล
น.ส.มีน (นามสมมุติ) ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือน 4 หมื่นกว่าบาท ก่อนหน้านี้ตนเป็นหนี้บัตรเครติดอยู่ 9 แสนบาท จู่ๆ มีบริษัทแห่งหนึ่งโทรมาเสนอปิดหนี้บัตรเครดิตให้ แล้วเขาก็จ่ายเงินปิดให้จริง โดยมีเงื่อนไขห้ามไปเป็นหนี้อะไรอีก เพราะต้องการให้ปลอดหนี้ที่แสดงในเครดิตบูโร ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเขารู้เรื่องหนี้สินตนได้อย่างไร จากนั้นก็ได้มีการไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.คูคต ว่าบริษัทปิดหนี้ให้ และทำสัญญาจะต้องร่วมกับบริษัทในโครงการกู้ซื้อคอนโดฯ ผ่านไป 3-6 เดือน เมื่อบูโรใสสะอาดเขาก็ให้กู้ซื้อคอนโดฯ ทีแรกคิดว่าคงกู้ซื้อห้องเดียว แต่ปรากฎว่าเขาเอาเอกสารไปยื่นทุกธนาคารพร้อมกัน และตนก็กู้คอนโดฯ 4 แห่ง 4 ห้องผ่าน เป็นหนี้ 16 ล้าน โดยบริษัทบอกให้ตนผ่อน 1 ห้อง และบริษัทจะผ่อนอีก 3 ห้อง มีสัญญา 2 ปีจะซื้้อคืน แต่ผ่านไประยะหนึ่ง บริษัทก็ไม่ผ่อนทำให้ตนถูกธนาคารทวงถามและบอกจะฟ้อง
“ผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็เช่นเดียวกับตน บางคนมีหนี้บัตรเครดิต 6 แสน บริษัทปิดหนี้ให้ แต่ต้องเป็นหนี้คอนโด 5 ห้อง 15 ล้าน บางคนมีคอนโดฯ ถึง 6 ห้องเป็นหนี้ 25 ล้าน 40 ล้านก็มี ผู้เสียหายได้มีการตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นและมีสมาชิกกว่า 200 คน ทุกคนเครียดมากเพราะบริษัทปล่อยทิ้งมีหนังสือบอกให้ไปประนอมหนี้กับธนาคาร บริษัทปิดดำเนินการแล้ว ซึ่งตนเครียดจัดกำลังจะฆ่าผูกคอตาย พอดีโทรไปมูลนิธิปวีณาฯ ได้พูดคุยกับนางปวีณา จึงได้ขอความช่วยเหลือ และสมิกทุกคนก็รวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ”
นางปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายที่เดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ได้ให้นักกฎหมายมูลนิธิปวีณาฯ ตรวจสอบเอกสารกฎหมายมีความละเอียดมากมีสัญญาเกือบทุกเรื่อง จึงมองถึงการแก้ปัญหาหนี้สินเป็นหลักว่าจะแก้อย่างไร สิ่งแรกที่เป็นห่วงคือ หนี้สินที่ต้องแบกหนี้คนละ 10 ถึง 20 ล้านบาท บางคนมากถึง 40 ล้านบาท ทั้งที่ทุกคนอายุยังน้อยอยู่ในวัยทำงานต้องเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูลูกและพ่อแม่ ทุกคนพะวงว่าถ้าหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้เขาจะถูกเป็นบุคคลล้มละลาย หมายความว่าชีวิตเขาจะอยู่อย่างไร เอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูครอบครัว ถูกออกจากงาน ยึดทรัพย์สิน เสียเครดิต
กรณีนี้ผู้เสียผลประโยชน์มี 2 ฝ่าย 1. ผู้ที่มาร้องทุกข์ถูกชักชวนให้ปิดหนี้สินบัตรเครดิตต่างๆ แล้วไปกู้ซื้อคอนโดที่มีเงื่อนไขต่างๆ กัน 2. ธนาคารสถาบันที่เปิดสินเชื่อวงเงินต่างกันก็ได้รับความเสียหายมีหนี้เสียถึง 3 พันล้านบาท เราจึงต้องมีหน่วยงานหนึ่งที่เป็นต้นเรื่องเพื่อขยายผลทั้งการช่วยเหลือและการตรวจสอบข้อมูล วันที่ 8 ธ.ค. นางปวีณาจึงได้โทรหา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประชุมร่วมกับนางปวีณาและทีมงานในวันที่ 9 ธ.ค. ก่อนที่วันนี้จะรวบรวมรายชื่อผู้เสียหาย 151 ราย พร้อมรายละเอียดข้อมูลมามอบให้ท่านอธิบดี DSI โดยสิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด ขอให้ DSI ได้ประสานธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อไปประชุมกับธนาคาร 8-9 แห่ง ที่มีลูกหนี้กู้ซื้อคอนโดฯ อยู่ถึง 3 พันล้านบาท ว่าจะหามาตรการช่วยเหลือประนอมหนี้กันอย่างไร เช่น ไม่คิดดอกเบี้ย หรือชะลอการชำระเงินกู้
ภายหลังจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหาย 70 คนยื่นหนังสือต่อพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้ว
ต่อมาเวลา 10.45 น. วันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) และพล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เพื่อจะพากลุ่มผู้เสียหายไปยื่นเรื่องและแจ้งความที่ ปอศ. โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. มาให้การต้อนีบและให้ความสะดวกกับนางปวีณา ด้าน พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ได้มาต้อนรับนางปวีณา และกลุ่มผู้เสียหายกว่า 70 ราย และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.อ.เมฆภิศาล ศรีภิรมณ์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังพนักงานสอบสวนมารับแจ้งความและสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหาย จากนั้นได้ทำการคัดแยกผู้เสียหาย 72 ราย พร้อมจัดพนักงานสอบสวนเพื่อทำการรับแจ้งความและสอบปากคำส่วนหนึ่งในวันนี้อย่างรวดเร็วฉับไวเป็นที่ประทับใจ
โดยผู้เสียหายแยกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
-กลุ่ม A ผู้เสียหายที่มีพยานหลักฐานครบ
-กลุ่ม B ผู้เสียหายที่มีเอกสารครบแต่อยู่ไกลต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกสอบปากคำให้ในวันนี้เลย
-กลุ่ม C ผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้แต่ยังไม่พร้อมให้ปากคำและเอกสารยังไม่ครบ จะให้ลงชื่อและนัดหมายมาสอบปากคำในวันต่อไปในช่วงเวลา 9.30-16.00 น. ที่บก.ปอศ.
พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายที่ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้และต้องการแจ้งความกับบก.ปอศ. ขอให้ลงชื่อกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีก่อน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะเป็นตัวกลาง นัดหมายผู้เสียหายให้เข้าแจ้งความ โดยจะจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้ให้เพียงพอกับจำนวนผู้เสียหายแต่ละวัน ในช่วงเวลา 9.30-16.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เสียหายทุกคน
นางปวีณา ขอบคุณ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ให้การต้อนรับและรับเรื่องอย่างดีเยี่ยม และขอบคุณตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ที่ให้การต้อนรับและรับแจ้งความจากผู้เสียหายอย่างดียิ่ง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะทำงานร่วมกับ DSI และ ปอศ. อย่างใกล้ชิดต่อไป