นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เปราะบางด้านความปลอดภัย จึงได้ดำเนินการปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ทางข้าม เช่น การทาสีพื้นทางด้วยสีโคลด์พลาสติก (สีแดง) เส้นชะลอความเร็ว (Rumble Strip) เครื่องหมายลดความเร็ว (Optical Speed Bar, OSB) ตัวอักษรบนพื้นทาง “เขตโรงเรียน” ป้ายเตือนเขตโรงเรียนพร้อมไฟกะพริบ และสัญญาณไฟจราจรชนิดกดปุ่ม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้ทันและลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ สจส. ได้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI เพื่อตรวจจับผู้ฝ่าฝืนที่ไม่ชะลอ หรือจอดรถบริเวณทางข้าม โดยข้อมูลจะถูกส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี จับและปรับผู้กระทำผิดตามกฎหมายจราจรสูงสุด โดยในปีงบประมาณ 2568 สจส. มีแผนติดตั้งสัญญาณไฟจราจรชนิดกดปุ่มเพิ่มอีก 20 แห่ง และในปีงบประมาณ 2569 จะขยายการติดตั้งอีก 30 แห่ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สจส. และภาคีเครือข่ายได้ขับเคลื่อนและรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนเพื่อลดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเน้นย้ำถึงการให้สิทธิ์คนเดินเท้าบนทางม้าลายอย่างปลอดภัย การลดความเร็วในเขตชุมชน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาล ไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ทั้งในกลุ่มผู้ขับขี่และคนเดินเท้า ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน สร้างวัฒนธรรมให้ผู้ขับขี่หยุดรถให้คนข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย
นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้บูรณาการความร่วมมือกับ สจส. กองบังคับการตำรวจนครบาล สถานีตำรวจนครบางโพ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียน และคณะผู้บริหารโรงเรียนโยธินบูรณะ สำรวจและปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของถนนในพื้นที่จุดเสี่ยงอุบัติเหตุและจุดอันตรายให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย เช่น ตัดแต่งกิ่งไม้ที่บดบังวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่ ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบังคับ ป้ายสัญลักษณ์ และป้ายกำกับความเร็วในบริเวณที่มองเห็นชัดเจน สร้างเส้นชะลอความเร็ว เพื่อเตือนผู้ขับขี่บริเวณทางข้าม ติดตั้งรั้วเหล็กกลางถนน เพื่อบังคับใช้ทางข้าม อีกทั้งยังดำเนินการกวดขันวินัยจราจรและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะบริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียน เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ใช้ทาง รวมทั้งรณรงค์สร้างจิตสำนึกการขับขี่อย่างปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อร่วมกันลดอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน