เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 26 มกราคม 2568 พ.ต.ท.วุฒิ พุฒิพานนท์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านย่านแพรกษา ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่บริเวณลานจอด พบ นายสมเกียรติ ยนต์เกษม อายุ 42 ปี นอนหมดสติหายใจโรยรินอยู่กับพื้น มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางอก 1 นัด แขนขวา 1 นัด ข้อมือซ้ายอีก 1 นัด รวม 3 นัด เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจอยู่สักพัก ก่อนจะเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยในที่เกิดเหตุ พบปืนกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ จำนวน 1 กระบอก โดยพบว่าปืนดังกล่าวยังมีกระสุนคาลังเพิงและในเต็มแม็กกาซีน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบ ปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 ปลอก และหัวกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว ตกเกลื่อนถนนรอบบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปิดกั้นพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไป
นาย วัชรพงษ์ แข่งขัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ระบุว่า ตนมาถึงก็เห็นผู้บาดเจ็บนอนอยู่หน้าบ้าน และมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงที่หน้าอกและแขน จึงได้ทำการปั๊มหัวใจ เพราะมีการจับชีพจรแล้วไม่มีเบื้องต้นได้รับแจ้ง จากญาติผู้บาดเจ็บว่าผู้บาดเจ็บทะเลาะกันกับอีกฝ่าย และมีการจะใช้อาวุธปืนยิง แต่โดนอีกฝ่ายหนึ่งยิงใส่ก่อน ก่อนผู้ก่อเหตุจะ ขับรถเก๋งหนีไป
ขณะที่ นาย โสรส พันธะมา (เบลอหน้า) เพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า ตนนั่งทำงานอยู่ แต่ได้ยินเสียง นึกว่าจุดประทัด ได้ยิน ไม่ต่ำกว่า 6 นัด แต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันเลย บ้านตนอยู่หลังตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุเลย ปกติเขาจะจุด ประทัดในช่วงเทศกาลประจำ ตนไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไรเพราะ ก็ต่างคนต่างอยู่พอตนได้ยินเสียงตนก็ยังนั่งทำงานต่อเพราะคิดว่าเขาจุดประทัด กว่าตนจะออกมาเห็นหลังจากได้ยินเสียงก็ประมาณ 3 นาที พอตนได้ยินเสียงคนร้องตนถึงเดินออกมา พบว่าเกิดเหตุแล้ว 
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืนเศษ นาย ฐิติวัชร์ ธัญวัฒน์กิติกุล อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจอดรถรอที่หน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปรับตัวเข้ามาในที่เกิดเหตุ โดย นายฐิติวัชร์ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ส่วนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ฌล 4200 กรุงเทพมหานคร ที่ นาย ฐิติวัชร์ ขับหลบหนี ได้มีญาติขับตามหลังมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการค้นรถ พบปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม. ถูกเก็บอยู่ในลิ้นชักหน้ารถฝั่งซ้าย จากการตรวจสอบพบว่ามีกระสุดอยู่ 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะคุมตัว นาย ฐิติวัชร์ ผู้ก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติมภายในบ้าน
จากการสอบสวนเบื้องต้น กับ นาย ฐิติวัชร์ ซึ่งเจ้าตัวให้การยอมรับว่าใช้อาวุธปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม.ยิงใส่อดีตสามีเก่าของแฟนสาวจริง โดยอ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนเองกลับมาถึงบ้านกับแฟนสาว ระหว่างนั้น คู่กรณีได้ลงมาจากรถกระบะแล้วเดินเข้ามาหาตนเอง โดยมีการถืออาวุธปืนติดมือมาด้วย แต่แฟนสาวได้เข้าห้ามและกันไว้ และคู่กรณีได้เดินวนหลบแฟนสาวพร้อมกับขึ้นลำกล้องปืน จังหวะนั้นตนเองซึ่งอยู่ข้างรถจึงเปิดประตูหยิบปืนที่อยู่ในกระเป่าสะพายวางที่เบาะด้านหลังชักออกมารัวยิงสวนกลับไป ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ายิงไปกี่นัดเพราะตกใจและป้องกันตัว แต่ทราบว่าตนเองยิงถูกคู่กรณี หลังเกิดเหตุด้วยความตกใจจึงรีบขับหลบออกมา พอตั้งสติได้จึงตัดสินใจมามอบตัวพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ. นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ออกมาให้สัมภาษณ์ ยืนยันในขณะนี้ตัวของอดีตสามีคือนาย สมเกียรติ ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ตัวของผู้เสียชีวิตคือสามีเก่าของ นางสาวจุฑาพร อายุประมาณ 40 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเลิกลากันไปได้ราวเดือนเศษ ซึ่งจากการสอบถามพยานแวดล้อมและพยานในที่เกิดเหตุ ได้ให้การว่าผู้บาดเจ็บ ก็คือตัวสามีเก่าของเจ้าของบ้าน และผู้ก่อเหตุเป็นแฟนใหม่ ซึ่งเพิ่งคบกัน ได้ทำการก่อเหตุยิงสามีเก่าและได้หลบหนีไป แต่เวลาต่อมา ตัวผู้ก่อเหตุได้กลับมามอบตัวที่บ้านที่เกิดเหตุแล้วเรียบร้อย จากการสอบถามในส่วนของพยานในที่เกิดเหตุ ก็คือเจ้าของบ้าน ฝ่ายผู้ก่อเหตุได้มีการยืนยันว่า ตัวผู้ตายได้มีการชักปืนที่จะเตรียมยิง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์ว่า ตัวผู้ตายมีการใช้อาวุธปืนยิงแล้วหรือไม่ ตอนนี้อยู่ในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบพยานแวดล้อมต่างๆ ส่วนตัวของผู้ก่อเหตุเองมีการใช้อาวุธปืนยิงจำนวน 6 นัด และตอนนี้ทางเราเจออาวุธปืน 2 กระบอก และปลอกกระสุนที่ใช้งานแล้ว 7 นัดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ด้านผู้ก่อเหตุมีการอ้างว่าเขาตกใจและ เป็นการป้องกันตัวเพราะตัวผู้ตายมีการขึ้นลำปืนแล้วมีการจ่อปืนมาที่เขา ผู้ก่อเหตุจึงได้ไปนำปืนที่อยู่ในกระเป๋าบริเวณหลังรถ ออกมาก่อเหตุยิงผู้ตายจนเสียชีวิตบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่เพียงลำพัง ผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน ที่มีการก่อเหตุขึ้นในครั้งนี้เพราะว่าตัวผู้ตายมีการขับรถเข้ามาไล่เลี่ยกันกับตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืน ทั้ง 2 กระบอกมีทะเบียน ซึ่งทั้ง ตัวผู้ตายและตัวผู้ก่อเหตุมีการครอบครองอย่างถูกต้อง เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหลักๆก็คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะ เตรียมตัวตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตมขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
************************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ
