ไปกราบไหว้ สักการะ หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี พระชัยหลังช้างแห่งแผ่นดินอีสาน ที่จ.อุบลฯ
หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้างแห่งแผ่นดินอีสาน เป็นพระพุทธรูปหุ้มด้วยเนื้อเงินบริสุทธิ์ ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนลานช้างอายุกว่า ๗๐๐ ปี ถูกขุดพบที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๕ โดยการนิมิตของท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อเงิน เกี่ยวข้องกับการสถาปนาเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย เนื่องจากเป็นพระพุทธรูป ประจำกองทัพเจ้าปางคำ แห่งราชวงศ์เชียงรุ้ง แสนหวีฟ้า สิบสองปันนา ที่แตกหนีกองทัพจีนฮ่อ มาสร้างนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน หนองบัวลุ่มภู
พระศรีวิสุทธิมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดเผยถึงประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อเงิน” ให้ผู้สื่อข่าวของเราฟังว่า ในราวปี พ.ศ.๒๒๒๘ เจ้าปางคำ ได้อัญเชิญหลวงพ่อเงิน ขึ้นเป็นพระชัยหลังช้างประจำกองทัพ ตามธรรมเนียมนักรบโบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ต่อมาราว พ.ศ.๒๓๑๔ พระเจ้าสิริบุญสารได้เสด็จขึ้นครองนครเวียงจันทน์ เกิดหวาดระแวงเจ้าพระวอ-เจ้าพระตาจะเป็นกบฏ จึงได้ยกทัพมาตี นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ทำให้เจ้าพระตาถึงแก่ อสัญกรรมในสมรภูมิรบ เจ้าพระวอผู้น้องขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ และได้อพยพประชาชน มาตั้งบ้านเมือง อยู่ที่ค่ายดอนมดแดง สร้างเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ภายหลัง เจ้าพระวอ ถูกฝ่ายเวียงจันทน์ ตามโจมตี จนถึงอสัญกรรมที่ค่ายบ้าน คู่บ้านแก เขตนครจำปาศักดิ์ และท้าวคำผงผู้บุตรเจ้าพระตา ได้ขึ้นเป็นผู้นำกองทัพเห็นว่าค่ายบ้านดอนมดแดง จะต้านทานกองทัพเวียงจันทน์ไม่ไหว จึงได้ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระเจ้ากรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี ทรงรับสั่งให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ครั้งดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกไปช่วย เมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย โดยให้ท้าวคำผงเป็นทัพหน้า นำทัพขึ้นไปตีเมืองเวียงจันทน์ จนประสบชัยชนะ และได้อัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบางสู่สยามประเทศ หลวงพ่อเงินจึงเป็นพระพุทธรูป ที่เกี่ยวข้องกับการอัญเชิญพระแก้วมรกตสู่ประเทศไทย
การศึกครั้งนั้น ทำให้หลวงพ่อเงินเป็นที่ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ต่อกองทัพกรุงธนบุรี ท้าวคำผงเกรงจะถูกอัญเชิญสู่นครหลวง เช่นพระพุทธรูปที่สำคัญของหัวเมืองต่าง ๆ จึงเก็บรักษาไว้ใต้ดิน จนเวลาผ่านไปกว่า ๒๐๐ ปี
ขณะที่ทหารฝ่ายสหรัฐอเมริกากำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ในมหาสงครามเวียดนาม ได้เกิดลำแสงพุ่งขึ้น ใส่เครื่องบินกองทัพสหรัฐอเมริกา จากบริเวณวัดป่าพระพิฆเณศวร์ เป็นเหตุให้เครื่องบินเสียหลักตก ภายหลัง เหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ออกบินลาดตระเวนจุดที่เกิดลำแสงเป็นประจำ ขณะที่ทหารนำเครื่องบิน ออกปฏิบัติการตามปกติ ถึงวัดป่าพระพิฆเณศวร์ ก็เห็นลำแสงจากบริเวณป่าดังกล่าวพุ่งตรงเข้าใส่เครื่องบิน ทันทีที่ คำรายงานผ่านจากเครื่องบิน บนท้องฟ้า ส่งตรงไปยังฐานทัพ หน่วยเคลื่อนที่เร็วของทหารอเมริกา ก็รุกคืบเข้าผืนป่าแห่งนั้น ผืนป่าถูกปิดล้อม หมู่บ้านถูกเข้า ตรวจค้น แต่ก็ไร้วี่แววของสิ่งผิดปกติใด ๆ ทำให้ทหารอเมริกาเกิด ความแปลกประหลาดใจ
ต่อมา ทหารสหรัฐอเมริกา ได้รับฟังเรื่องราวจากท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ ถึงความน่าอัศจรรย์ของผืนป่าแห่งนี้ว่า มักจะมีลำแสงพุ่งขึ้นในวันพระ ๑๕ ค่ำ แม้ทหารสหรัฐอเมริกา ก็ประจักษ์เหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตนเอง จนเกิดศรัทธานำไปสู่การสร้างโบสถ์มิตรภาพไทย-อเมริกันขึ้น ณ วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) แต่อุโบสถยังไม่แล้วเสร็จ ทหารหน่วยดังกล่าว ก็ได้รับคำสั่งให้ถอนตัวออกจากฐานบินอุบลราชธานี อุโบสถจึงถูกปล่อยทิ้งค้างไว้นานหลายปี
พระศรีวิสุทธิมุนี เล่าต่ออีกว่า คืนหนึ่ง ท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ นิมิตถึงตาชีปะขาว มาอาราธนาให้สร้างอุโบสถ ต่อให้เสร็จ ท่านแย้งว่า ไม่มีเงินที่จะสร้างได้ ตาชีปะขาวจึงบอกให้ไปอัญเชิญของสำคัญมีค่า ที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ นั่นก็คือ พระพุทธรูปประจำกองทัพเจ้าเมืองเก่า ถูกฝังอยู่ใต้ดิน อัญเชิญ ขึ้นมารักษาไว้ให้ดี เพื่อเป็นสมบัติพระศาสนา ให้ลูกหลานได้เคารพ สักการบูชาสืบไป ท่านจึงนำชาวบ้าน ไปขุดตามนิมิตบอกก็พบศิลา ๔ เหลี่ยม ถูกจัดไว้ในลักษณะหีบ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมารวิชัย เนื้อเงินบริสุทธิ์ ท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อเงินมาประดิษฐานไว้ ที่วัดปากน้ำ ตราบจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นภายในวัดปากน้ำ(บุ่งสระพัง)ยังมีปูชนียวัตถุดังนี้
๑. อุโบสถมิตรภาพ เป็นอุโบสถแห่งเดียวในประเทศไทยที่ร่วมสร้างโดยทหารกองทัพอเมริกัน ในสมัยสงครามเวียดนาม ถือว่าเป็นอุโบสถแห่งมิตรภาพก็ว่าได้ ภายในอุโบสถมีหลวงพ่อพระทศพลญาณมงคลบพิตรวิเศษศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในอุโบสถ
๒. หลวงพ่อสมเด็จ ๗ กษัตริย์ พระพุทธรูปปางนาคปรกหินทราย ศิลปะยุคทราวดี ศตวรรษที่ ๑๒-๑๖ อายุประมาณ ๑,๓๐๐ ปี เป็นพระพุทธรูปนาคปรกที่แปลกจากที่พบในประเทศไทยโดยทั่วไป เนื่องจาก มีพญานาค ๗ ตัว ทอดขนดกอดเกี้ยว รวมเป็นหนึ่ง แล้วแผ่พังพานออก ๗ เศียร หัวเหนือเศียรพระพุทธปฏิมากร เรียกว่า พญานาค ๗ ตัว ๗ เศียร ทั้งองค์ปฏิมากรมีความงดงามต้องตามพุทธลักษณะทุกประการและพญานาคก็มีความละเอียดลออสวยงามแสดงให้เห็นถึงฝีมืองานช่างที่ประณีต
๓. หลวงพ่อพระพุทธมงคลโสฬสญาณวิเศษศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระประธานในวิหาร ท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ ได้ปรารภถึงวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ได้มาจากวัดป่าพระพิฆเณศวร์ ว่าที่เก็บรักษาไม่เหมาะสมจึงสร้างวิหารขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๓๖ เมตร และ สร้างพระประธานในวิหารขนาดหน้าตัก ๗ เมตร สูง ๙ เมตร บรรจุวัตถุมงคล และสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดได้มาพร้อมกับหลวงพ่อเงิน ภายในองค์พระและบนเศียรบรรจุพระพุทธรูปทองคำหลายองค์
๔. หลวงพ่อเงินจำลอง หน้าตักขนาด ๘ เมตร สูง ๑๙ เมตร เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ กรุงเทพฯ ประทานฤกษ์ในการก่อสร้าง เมื่อวันเสาร์ ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๐ เวลา ๑๔.๓๙ น. ภายใน องค์พระบรรจุวัตถุมงคลสำคัญหลายอย่างที่ได้มาจากวัดป่าพระพิฆเณศวร์ และบนเศียรพระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และ พระพุทธรูปที่สำคัญ ๆ หลายองค์
๕. เจดีย์ศรีปากน้ำ เป็นเจดีย์จำลองพระธาตุพนม ขนาดกว้างยาว ๕ x ๕ เมตร สูง ๒๕ เมตร ๒๙ เซนติเมตร พระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๐๙ น. และยกฉัตรวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๕ ยอดพระธาตุบรรจุพระสารีริกธาตุและพระพุทธรูปทองคำและสัมฤทธิ์หลายองค์ ที่ได้มาจากวัดป่าพระพิฆเณศวร์ ภายในบรรจุอัฐิธาตุหลวงพ่อพระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล)
๖. พระบรมสารีริกธาตุ ๙ แผ่นดิน ซึ่งสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถานบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ สู่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง (หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี) ตำบลกุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้ชื่อ “พุทธมหาบารมีพระบรมสารีริกธาตุ ๙ แผ่นดิน สู่ปฐพีบุญอีสานอุบลราชธานี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา 5 ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก ๙ ประเทศ ได้แก่ ไทย อินเดีย เนปาล ศรีลังกา จีน พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย และลาว รวมทั้งพระอรหันตธาตุ ๘๐ พระอสีติมหาสาวก กว่าหนึ่งพันพระองค์ อาทิ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอานนท์ ฯลฯ สู่แผ่นดินอีสานอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ดินแดนที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน อุบลราชธานี ศรีวนาลัย โดยประดิษฐาน ณ วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง ซึ่งเป็นวัดที่ได้ชื่อว่าทหารอเมริกันได้มาสร้างโบสถ์ให้ในสมัยสงครามเวียดนาม (สหรัฐได้เข้ามาตั้งฐานทัพที่อุบลราชธานี) เป็นอุโบสถมิตรภาพไทย-อเมริกา ซึ่งเป็นศาสนสถานเพียงหนึ่งเดียวที่ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางไฟสงคราม และเป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อเงิน พระพุทธรูปเนื้อเงิน ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนล้านช้าง ซึ่งมีอายุกว่า ๗๐๐ ปี และเป็นพระพุทธรูปประจำกองทัพพระวอ-พระตา ในการสถาปนาเมือง อุบลราชธานี ศรีวนาลัย
ปัจจุบันนี้ วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ยังเปิดให้พุทธศาสนิกชนและผู้สนใจได้เข้ากราบสักการะทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น.-๑๗.๐๐ น.จึงนับเป็นโอกาสที่เป็นมงคลยิ่ง สำหรับชีวิต ที่พุทธศาสนิกชนในภาคอีสาน และจากภาคอื่นๆ จะได้กราบไหว้สักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลโดย : พระศรีวิสุทธิมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี
/////////////////////////////////////////////