หน้าแรกการเมือง"อนุทิน" และ "ซาบีดา" นำทีมผู้บริหารมหาดไทย ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เน้นย้ำ ต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำภาครัฐ รักษาชีวิตให้ปลอดภัย

“อนุทิน” และ “ซาบีดา” นำทีมผู้บริหารมหาดไทย ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เน้นย้ำ ต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำภาครัฐ รักษาชีวิตให้ปลอดภัย

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

“อนุทิน” และ “ซาบีดา” นำทีมผู้บริหารมหาดไทย ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เน้นย้ำ ต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำภาครัฐ รักษาชีวิตให้ปลอดภัย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (18 ธ.ค. 67) เวลา 10.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวนกว่า 300 คน ณ ศาลาประชาคม อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และได้เดินทางต่อไปยังบ้านคลองกะแดะแจะ หมู่ 6 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่มประปาดื่มได้ ให้กับครัวเรือนประชาชนผู้ประสบภัย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นายอนุทิน และคณะ ได้พักค้างคืนที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ในวันนี้

โดยนายอนุทิน ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทุกคนมาด้วยความห่วงใย เวลาประชาชนมีทุกข์ เราก็มาให้กำลังใจ ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมาบให้อธิบดีกรม ปภ. ได้มาประจำพื้นที่เพื่อบริหารสถานการณ์ร่วมกับรักษาการผู้ว่าราชการ จ.สุราษฎร์ธานี และยืนยันว่า “ทุกข์ของประชาชนหนักเท่าไหร่ คนมหาดไทยทุกข์ยิ่งกว่าประชาชนหลายเท่า” เพราะหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าเกิดเหตุอุทกภัยหรือภัยใด ๆ ก็ตามในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เราจะเร่งลงไปให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และไปร่วมแก้ปัญหาให้กับพื้นที่

“อำเภอกาญจนดิษฐ์เป็นอำเภอที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยเป็นปริมาณมาก จากปริมาณฝนตกหนักมากถึง 300 มิลลิเมตร และแม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะดีขึ้น แต่ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมามีฝนตกทั้งวันทั้งคืน จึงส่งผลกระทบอย่างมาก ซึ่งหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่จะได้ตั้งคณะกรรมการฯ เร่งสำรวจความเสียหาย ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ โดยคณะกรรมการฯ และรายงานไปยัง ปภ. เพื่อเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามเกณฑ์สูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท “สิ่งที่ต้องเร่งทำคือสำรวจความเสียหาย ให้เงินถึงมือประชาชนให้ได้เร็วที่สุด”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และสั่งการให้กรม ปภ. ร่วมกับ จ.สุราษฎร์ธานี และทุกจังหวัด มีการถอดบทเรียน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้เนินเขา อยู่ริมเขา พร้อมทั้งย้ำเตือนขอให้ประชาชนได้เชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำเตือนของราชการ หากเกิดสถานการณ์ต้องเร่งอพยพออกมาที่ศูนย์พักพิง เพราะการที่พี่น้องประชาชนมาอยู่ศูนย์พักพิง จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ ทั้งอาหารการกิน สุขอนามัย จากเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกส่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด “เราต้องรักษาชีวิตของเราเสียก่อน ข้าวของเสียหายเราสามารถซ่อมแซมจัดซื้อจัดหาใหม่ได้ แต่ชีวิตและอวัยวะ ถ้าสูญเสียไป ไม่สามารถจัดหามาใหม่ได้ และญาติพี่น้องก็ต้องเศร้าโศกเสียใจ หรือหากบาดเจ็บสาหัส ต้องป่วยติดเตียงตลอดชีวิต ญาติพี่น้องคนในครอบครัวก็ต้องดูแลเราตลอดชีวิต ซึ่งมันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย จึงขอแนะนำพี่น้องประชาชนต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำภาครัฐ”

“ตั้งแต่วันที่ 12-16 ธ.ค. 67 ได้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ใน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,900 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 7,840 ครัวเรือน มีผู้พลัดตกน้ำเสียชีวิต 1 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาผู้สูญหายจากน้ำพัด และสำรวจความเสียหายด้านทรัพย์สินการเกษตร ประมง ทางสาธารณะ ถนนหนทางต่าง ๆ ทั้งนี้ อำเภอกาญจนดิษฐ์ ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ ที่ว่าการอำเภอกาญจนดิษฐ์ และร่วมกับศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จ.สุราษฎร์ธานี จัดตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง”

กองสารนิเทศ สป.มท.

Ad 1
Ad 2