นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า Net Idol Asia Festival 2024 เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงานสำคัญด้านการท่องเที่ยว คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน โดย ททท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของ Content Creator , Influencer ,Net Idol ทั้งคนรุ่นใหม่และคนวัยเก๋า ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีประสบการณ์ มีมุมมองใหม่ๆ เพื่อมาร่วมกันสร้าง Digital Content ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองน่าเที่ยว 55 เมือง ซึ่งมีความสวยงาม มีอัตลักษณ์ มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ผ่าน 7 เสน่ห์อัตลักษณ์ไทย 7F (Family / Festivals / Food / Faith / Films / Fashion / Facial & Fitness) โดยในวันที่ 12 ธันวาคม ปีนี้ เราจะมีการมอบรางวัลให้ 100 อินฟลูเอนเซอร์ จาก 10 ประเทศอาเซียน+จีน ที่สร้างสรรค์คอนเทนท์คุณภาพและสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตลาดอาเซียน+จีนนี้ ถือเป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญของไทย ที่มีนักท่องเที่ยวรวมกันในแต่ละปีมากกว่า 20 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1 ล้านล้านบาท ด้วยโครงการนี้ ททท. มั่นใจว่า นักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆจะได้รู้จัก และรักเมืองไทยได้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม
ดร.ประกาย ณ สงขลา ประธานสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน กล่าวว่า โครงการ Net Idol Asia Festival 2024 นี้จะเปิดโอกาสให้ ดารา นักแสดง นักร้อง ศิลปิน คนดัง นางแบบ นายแบบ Influencer Net idol และผู้ที่สนใจทุกวัย สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อร่วมกิจกรรมในการสร้าง Digital Content เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เผยแพร่ในแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกแพลทฟอร์ที่ตนเองถนัด นอกจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยว การถ่ายภาพ การเล่าเรื่อง การถ่ายและตัดต่อคลิป VDO การใช้แพลทฟอร์มต่างๆ และการสร้าง Personal Branding เพื่อเป็น Influencer โดยอาจารย์ผู้มีความชำนาญในแต่ละด้าน ซึ่งเราคาดว่าโครงการนี้จะสร้าง Digital Content มากกว่า 1,000 ล้านวิวบน Social Media ทุกแพลทฟอร์มทั้ง Facebook Instagram Youtube Tiktok รวมถึงแพลทฟอร์มในประเทศจีน Douyin เสี่ยวหงชู เป็นต้น
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การท่องเที่ยวยุคนี้ Digital Content เป็นเรื่องสำคัญ ปัจจัยสำคัญคือ (1) สินค้าและบริการต้องดี สร้างประสบการณ์ที่ดีเกินคาด และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายตามชาติ วัยและไลฟ์สไตล์ (2) วิธีเล่าเรื่อง และผู้เล่าเรื่องต้องคม กลมกล่อม โดนใจกลุ่มเป้าหมาย (3) การเลือกใช้สื่อและแพลทฟอร์มต้องเหมาะสม สามารถสร้างได้ทั้งความสนใจ ความน่าเชื่อถือ และต้องปิดการขายได้ทันที ซึ่งโครงการนี้ เป็นการรวมกันของ 3 พันธมิตรที่เก่งทั้ง 3 ด้าน สภาท่องเที่ยวฯ จะคัดสินค้าดี บริการดี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว และมีผู้ประกอบการที่พร้อมช่วยปิดการขาย สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน มีนักเล่าเรื่องที่หลากหลาย ชาติ วัย และไลฟ์สไตล์ ททท. เก่งเรื่องการใช้สื่อ การประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งแพลทฟอร์มออนไลน์และอีเวนท์ต่างๆดังนั้น สทท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในโครงการนี้จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน เพราะเรามีทั้งผู้เปิดการขาย ผู้เล่าเรื่องและผู้ปิดการขาย ครบวงจร พร้อมขาย พร้อมกระจายรายได้สู่ทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวได้ทันทีตามนโยบาย Ignite Thailand Tourism ของรัฐบาล